[Short fic HP/Harry Potter] muggle girl (TMR x OC)
ไม่มีอะไรที่ทอม ริดเดิ้ลอยากได้แล้วไม่ได้ น้องชายหรือ? ตลกสิ้นดี [ สถานะนิยาย : คามุย//หายตัว ]
ผู้เข้าชมรวม
2,510
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
[ Introduction ]
ค.ศ. 1934
บ้านอิฐสไตล์ยุโรปที่ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป ภายในห้องนั่งเล่นที่สว่างไสว มีเด็กสาวอายุราวๆ สิบสี่ปีกำลังนั่งสัปหงกอยู่ใกล้ๆ ประตูไม้ของบ้าน
เธอสะดุ้งโหยงเงยหน้าขึ้นมองออกหน้าต่างฉับพลันเมื่อได้ยินเสียงของม้าที่คุ้นเคย ร่างเล็กรีบวิ่งไปเปิดประตูให้อ้ากว้าง พบเห็นชายวัยกลางคนหิ้วกระเป๋าหนังสีน้ำตาลใบเก่าๆ เดินเข้ามา
“พ่อคะ!” เด็กน้อยยิ้มแก้มปริ
คนเป็นพ่อที่เห็นลูกสาวมาเปิดประตูรอแม้มืดค่ำก็ใจฟูฟ่องและเป็นห่วงในเวลาเดียวกัน “ดึกดื่นทำไมไม่นอน รอพ่ออยู่หรือ?”
“พ่อบอกจะกลับมาคืนนี้”
“โอ้ ลูกรัก” เขายิ้มอย่างอ่อนใจ
“ทานอะไรรึยังคะ ให้ลูกทำมื้อดึกดีหรือไม่?” เธอเอ่ยอย่างกระตือรือร้นพลางถอยหลังไปสองสามก้าวให้ผู้ปกครองได้เดินเข้าบ้าน
โจเซฟ — ผู้เป็นพ่อของเด็กสาววางกระเป๋าใส่อุปกรณ์การแพทย์ไว้ข้างประตู ถอดหมวกและเสื้อคลุมตัวนอกออก “ไม่เป็นไร พ่อทานมาแล้ว”
“งั้นลูกเอากระเป๋าไปเก็— ประเดี๋ยว?” เด็กสาวเบนสายตาไปทางข้างหลังผู้สนทนา เป็นเด็กผู้ชายร่างเล็ก “นั้นใครหรือคะ?”
“โอ้! นี่ทอม เขาจะมาอาศัยอยู่กับเรา — หวังว่าจะเข้ากันได้นะเด็กๆ” พ่อตอบยิ้มๆ พลางดันแผ่นหลังของเด็กชายที่ตัวเล็กกว่าเธอให้เดินมาข้างหน้า
พอต้องแสงไฟ ทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้น สภาพชุดเสื้อผ้าซอมซ่อ เนื้อตัวผอมแห้งขาดสารอาหาร เส้นผมและนัยน์ตาสีดำสนิท เธอสำรวจอีกฝ่ายอย่างถือวิสาสะ
“ฉันชาร์ล็อตเต้ แอนเดอร์สัน” เด็กสาวยื่นมือไปข้างหน้าตามมารยาท
“ทอม ริดเดิ้ล” เด็กชายจับมือทักทายตอบ
เด็กน้อยทั้งสองเงียบกริบจนผู้ใหญ่หนึ่งเดียววิตก สายตาหันซ้ายแลขวาพยายามทำลายบรรยากาศมาคุนี้และเหมือนลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนจะเดาใจผู้พ่อได้ไปหมดเสียทุกเรื่อง
“ห้องน้ำมีเพียงห้องเดียว รีบไปอาบน้ำเถอะ ส่วนหนูจะเอาของไปเก็บให้ค่ะ” ว่าแล้วก็หิ้วกระเป๋าขึ้นไปชั้นสองของบ้าน
“อ่า— งั้นทอม ยังหิวอยู่หรือไม่? แซนด์วิชชิ้นนั้นเพียงพอหรือเปล่า?” โจเซฟวางมือบนไหล่เด็กชายเบาๆ เพื่อให้อีกฝ่ายผ่อนคลายมากขึ้น
เขาส่ายหัว “ไม่เป็นไรครับ ผมอิ่มแล้ว”
คนอายุมากกว่ายิ้ม “งั้นดีเลย เดี๋ยวฉันไปหยิบเสื้อผ้ามาให้นะ”
“ครับ” ทอมพยักหน้ารับ
ไม่นานนักทอมก็อาบน้ำเสร็จ แล้วตามด้วยโจเซฟ ในระหว่างที่พ่อของเธอกำลังเข้าห้องน้ำอยู่นั้น เด็กสาวต้องพาแขกถาวรไปเก็บของที่ห้อง แต่ที่น่าหงุดหงิดใจคือบ้านหลังนี้มีห้องนอนเพียงสองเท่านั้น
แน่นอนว่าเธอได้คุยเรื่องนี้กับพ่อแล้ว และเธอยินดีที่จะให้ทอมมานอนที่ห้องตัวเอง ทั้งหมดนี้เพียงเพราะไม่อยากให้เด็กชายไปรบกวนการพักผ่อนของผู้เป็นพ่อ
แขนเล็กผลักประตูไม้เข้าไปด้านใน มือเอื้อมเปิดสวิตช์ไฟ ก่อนก้าวไปด้านหน้าให้อีกคนเดินตามเข้ามา
ทอมสำรวจรอบห้องโดยไม่สนใจเจ้าของ เนื่องจากสร้างบ้านด้วยอิฐ โทนสีจึงออกไปทางส้มน้ำตาลตามอายุของมัน เฟอร์นิเจอร์ประดับค่อนข้างน้อยชิ้น มีเตียงใหญ่ขนาดประมาณหกฟุตชิดอยู่ใกล้หน้าต่างตรงมุมห้อง โต๊ะวางโคมไฟอยู่ใกล้ๆ อีกฟากด้านข้างเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งขนาดไม่ใหญ่มากทิศทางปลายเตียงมีโต๊ะเก้าอี้และชั้นหนังสือ ตามกำแพงมีไม้ประดับให้ดูสบายตา
เขายอมรับว่ารสนิยมการแต่งห้องของเธอดีไม่น้อย
“นายต้องนอนร่วมกับฉัน — เอาของไปวางไว้ตรงนู้นก่อน” เธอชี้ไม้ชี้มือไปทางมุมห้อง
ทอมทำตามอย่างว่าง่าย จัดแจงอะไรสักอย่างให้เรียบร้อยก่อนเดินไปนอนที่เตียงอย่างถือวิสาสะ
เด็กสาวเลิกคิ้วขึ้น ไม่คิดว่าจะไร้มารยาทและสามัญสำนึกขนาดนี้ แต่ก็เลือกปล่อยผ่าน ชาร์ล็อตเต้ปิดไฟก่อนคลานขึ้นเตียงไปนอนเพราะรูมเมทจำเป็นดันเหลือพื้นที่ริมกำแพงไว้ให้ ผ้าห่มผืนใหญ่ที่เลื่อนขึ้นมาถึงอก จากที่ง่วงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อหัวถึงหมอนไม่นานนักก็เข้าสู่ห่วงนิทรา
ในกลางดึกที่กี่โมงก็ไม่อาจทราบได้ ทอมสะดุ้งตื่นขึ้น หยาดเหงื่อไหลลงตามกรอบโครงหน้า อ้าปากหอบหายใจแรงกอบโกยอากาศ เขารู้สึกเหมือนพึ่งได้นอนไปเมื่อห้านาทีที่แล้ว ภาพฝันร้ายยังคงติดตา ครั้งจะนอนต่อก็ยากเกินไป ลองขยับท่าหันซ้ายทีขวาทีก็ไม่เป็นผล
เด็กสาวพลิกตัวหันมาทางผู้ร่วมเตียง เปลือกตาเปิดออกจ้องมองใบหน้าอีกฝ่ายแฝงไปด้วยความรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ
“นอนไม่หลับหรือ?” เธอถาม
“…อืม” เขาตอบรับในลำคอ
หล่อนถอนหายใจเบาๆ “เทียนหอมบนโต๊ะอาจช่วยได้” ว่าจบก็คลุมโปงหนี
เขาหันไปดูโต๊ะข้างเตียงสีขาว แสงจันทร์อ่อนๆ สว่างมากพอที่จะให้เขาแยกแยะสิ่งของต่างๆ ได้ มือผอมแห้งเอื้อมไปหยิบไฟแช็กเหล็กทรงสี่เหลี่ยมๆ ขึ้นมาจุดเทียน
กลิ่นหอมคล้ายดอกไม้ชนิดหนึ่งชวนผ่อนคลายอ่อนๆ ลอยล่องไปทั่วอากาศ ทอมล้มตัวนอนอีกครั้งพลันหลับตา สมองเริ่มปลอดโปร่ง ไม่นานนักลมหายใจก็สม่ำเสมอ
รุ่งเช้า กลิ่นเบคอนทอด ไส้กรอกและไข่ดาวลอยเตะจมูกเด็กชาย ซึ่งกระตุ้นความหิวได้ดีเลยทีเดียว เขาก้าวขาเดินลงบันไดไปห้องครัวด้วยจังหวะที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุด พอไปถึงก็พบชาร์ล็อตเต้ที่กำลังทำอาหารกับคุณโจเซฟนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โต๊ะ
“อรุณสวัสดิ์ทอม” คนอายุมากสุดในบ้านเอ่ยทักเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้
“อรุณสวัสดิ์ครับ” เขาตอบกลับ
“เมื่อคืนหลับสบายไหม?”
“ก็ดีครับ” ทอมว่าพลางเลื่อนเก้าอี้นั่ง
คุณโจเซฟพยักหน้ารับแล้วก้มอ่านต่อ ไม่นานนักอาหารก็เสร็จ จานกระเบื้องขาวตรงหน้ามีเบคอนทอดกรอบสองชิ้น ไข่ดาวหนึ่งฟอง ไส้กรอกยาวสองชิ้น ขนมปังทาเนยหนึ่งแผ่นและน้ำส้มคั้นสด มื้อเช้าง่ายๆ ที่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่มีวันทำได้แบบนี้ ทันทีที่นึกถึงโอ๊ตมีลสีเหลืองอ่อนข้นหนืดจืดชืดก็รู้สึกเหมือนจะอ้วกออกมา
“เป็นอะไรหรือทอม? ไม่หิวหรือ?” เขาเงยหน้าสบตากับคุณโจเซฟที่อยู่ฝั่งตรงข้าม อีกฝ่ายมองเขาด้วยแววตาเป็นห่วง พลันในใจก็รู้สึกอุ่นวาบอย่างหน้าประหลาด
“เปล่าครับ” ทอมส่ายหัวก่อนลงมือทานอาหารจนหมดจาน ครั้งจะดื่มน้ำส้มต่อก็ชั่งใจ เขาไม่ค่อยชอบรสชาติหวานๆ เปรี้ยวๆ ของมันสักเท่าไหร่นัก แต่มือข้างหนึ่งก็จับแก้วไว้มั่นเสมือนกำลังทำใจ
ชาร์ล็อตเต้เหล่มองพลางยกแก้วนมกระดกจนหมด เธอลุกเดินไปหยิบแก้วในมือเด็กชายมาถือไว้เองแล้วหายเข้าครัวไป
ทอมมองตามอย่างฉงนปนหงุดหงิด ทำไมถึงฉวยไปจากมือเขาแบบนี้กัน? และไม่นานนักหล่อนก็กลับมาพร้อมแก้วนมในมือแทน
เด็กสาวยื่นมันให้เขาและกล่าว “ดื่มให้หมด”
ทอมรับมาในมือ สบเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเล็กน้อยก่อนหันมากระดกรวดเดียว รสชาตินมอุ่นๆ ไหลลื่นลงคอทำให้รู้สึกดีไม่น้อย พูดตามตรงว่าเขาไม่เคยดื่มนมมาก่อน นัยน์ตาสีดำจ้องมองแก้วเปล่าในมืออย่างใช้ความคิด
โจเซฟนั่งมองเด็กๆ ด้วยรอยยิ้ม เห็นเค้าลางว่าจะไปได้สวยและรักกันดีเขาก็อุ่นใจ อย่างน้อยชาร์ล็อตก็จะได้มีเพื่อนเสียบ้าง แม้ทอมจะอายุน้อยกว่าเป็นหกปีเลยก็ตาม
“ถ้าอิ่มแล้วก็ดี เดี๋ยวไปเตรียมตัวเสีย ฉันจะพาเข้าเมืองไปซื้อของใช้จำเป็น”
“ครับ” ทอมพยักหน้ารับก่อนขึ้นห้องไป
ชายวัยกลางคนหันไปหาลูกสาวตนเอง “คิดว่าทอมเป็นยังไงหรือ?”
“ลูกว่าไม่แย่ แต่ยังต้องเรียนรู้อีกมาก” เธอว่าพลางลงมือเก็บจานบนโต๊ะ
“เขายังเด็กนัก” โจเซฟกล่าว “สิ่งแวดล้อมที่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้าสรรค์สร้างให้เขากลายเป็นเขาในตอนนี้”
คนลูกมองหน้าพ่อตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่แปลกใจเท่าไหร่”
“ระหว่างที่พ่อไม่อยู่ดูแลเขาดีๆ อย่าปล่อยให้เสียคนเชียว” ผู้ปกครองเด็กสาวกำชับอย่างหนักแน่น ด้วยหน้าที่การงานที่ให้ไม่ค่อยอยู่ติดบ้านเสียเท่าไหร่นัก ทำให้ค่อนข้างเป็นกังวลไม่น้อย
“ค่ะ” เธอพยักหน้ารับคำก่อนหายเข้าครัวไปล้านจาน
เวลาผ่านไปสักพักทอมก็เดินลงมาอีกครั้ง
“เรียบร้อยดีนะ? งั้นไปกันเถอะ” โจเซฟลุกขึ้นจากโซฟา สวมเสื้อโค้ทตัวยาวและหมวกก่อนเดินนำออกจากบ้าน
เมื่อถึงรถม้า คนขับที่จ้างวานมาก็เปิดประตูให้อย่างนอบน้อม ทั้งสองพากันขึ้นไปนั่ง และเริ่มออกตัว เด็กชายเหล่มองซ้ายขวา เหมือนว่าคนโตกว่าจะรู้จึงชิงเอ่ยปาก
“ชาร์ลไม่ชอบไปที่คนเยอะๆ น่ะ” เขายิ้ม
“ค— ครับ” ทอมก้มหน้างุดอย่างเขินอายที่ตัวเองเผลอแสดงออกมากเกินไป
โจเซฟหัวเราะในลำคอเบาๆ “อีกสักพักใหญ่กว่าจะถึงที่หมาย อดทนหน่อยนะทอม
“ครับ”
พอตกเย็นทั้งสองก็กลับมา อ้อมกอดของโจเซฟเต็มไปด้วยเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้จำเป็นต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้ สองวันต่อมาก็มีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่อย่างโต๊ะเขียนหนังสือและตู้เสื้อผ้ามาส่งที่บ้านน่าเสียดายที่ขนาดห้องไม่ได้กว้างมากพอที่จะรองรับเตียงสองหลัง
กิจวัตรประจำวันง่ายๆ ของทอมดำเนินขึ้นวนเป็นวงกลม ตื่นเช้า อาบน้ำ ทานอาหาร ช่วยทำงานบ้านจิปาถะ พักผ่อนอ่านหนังสือ และเว้นช่วงไว้ทานมื้อเที่ยงและมื้อค่ำ
ส่วนคุณโจเซฟ — ชายผิวขาววัยกลางคน ผมและดวงตาสีน้ำตาลอ่อน เขานั้นเป็นหมอ ลักษณะนิสัยคือคนอบอุ่น ใจดี ยิ้มง่าย และชอบช่วยเหลือผู้อื่นแม้อีกฝ่ายจะไม่มีเงินจ่ายก็ตาม — ซึ่งส่วนตัวแล้วเขาไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ที่คุณโจเซฟใจบุญขนาดนี้ — ส่วนใหญ่จะได้เจอหน้ากันตอนมื้อเช้า แล้วก็หิ้วกระเป๋าออกบ้านไปดูแลคนไข้ตามพื้นที่ต่าง ๆ พอตกเย็นก็กลับมา และบางครั้งก็ไปต่างเมืองจึงหายหน้าหายตาไปเสียหลายวัน
สุดท้ายคือชาร์ล็อตเต้ ลูกสาวคนเดียวของคุณหมอใจบุญที่ได้ความเหมือนมาเพียงสีผมและดวงตา หล่อนค่อนข้างโรคส่วนตัวสูงสักเล็กน้อย แต่กลับใจดีกว่าที่คิดเอาไว้ — หรือเขาคิดไปเองก็ไม่อาจทราบได้ — เป็นคนมีความรับผิดชอบเกินขนาดตัวไปมาก งานบ้านทุกอย่างถูกเธอจัดการเสียจนหมด — ซึ่งบางครั้งเขาก็คอยเป็นลูกมือให้ — เธอเป็นคนฉลาด ได้ยินมาจากคุณโจเซฟว่าสามารถศึกษาตำราหนังสือได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพาอาจารย์ — นั้นน่าสนใจมากเลยทีเดียว
และเวลาก็ผ่านเลยไปหลายปี จนกระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
[แถม]
ค.ศ. 1938
สายฝนสาดกระหน่ำราวกับย้ำเตือนถึงการสูญเสียครั้งใหญ่ เสาหลักของบ้านได้จากไปด้วยวัยเพียงสี่สิบสี่ปี ในงานทุกคนสวมใส่ชุดคุมโทนสีดำ เหล่าเพื่อนบ้านและคนรู้จักของคุณหมอโจเซฟที่เดินทางมาร่วมงานไว้อาลัยค่อยๆ ทยอยกลับไปกันจนหมด เหลือไว้เพียงหญิงสาวผู้เป็นทายาทและเด็กชายในการดูแลของบ้านแอนเดอร์สัน ป้ายหลุมศพไม่ใกล้ไม่ไกลจากต้นไม้ใหญ่ในสวนหลังบ้านเต็มไปด้วยดอกไม้สีสด
หญิงสาวเหล่สายตาไปมองเด็กชายที่ยืนอยู่ข้างๆ ทอมในชุดสูทสุภาพขนาดพอดีกำลังก้มหน้าคางชิดอกราวกับกำลังอดกลั้นอะไรบางอย่าง เธอขยับเข้าใกล้พลางเอื้อมไปจับมืออันสั่นเทาของอีกฝ่ายไว้
“ไม่เป็นไร” เธอพูด “ฉันจะดูแลนายในส่วนของเขาเอง”
เด็กชายทำเพียงพยักหน้ารับ ยกมือปาดน้ำบนหน้าแบบลวกๆ
“เข้าข้างในเถอะริดเดิ้ล ก่อนหวัดจะกินหัวนาย” ชาร์ล็อตค่อยๆ โอบไหล่เล็กของเด็กชายก่อนพยุงเข้าบ้าน
ทอมรู้ตัวดีว่าควรทำอะไร เจ้าตัวเดินขึ้นชั้นสองไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยที่หญิงสาวไม่ต้องบอก ส่วนตัวเธอนั้นก็เช่นกัน ชาร์ล็อตไม่ประสงค์อาการป่วยใดๆ ทั้งสิ้น เพราะตอนนี้ที่บ้านไม่มีหมอเหมือนทุกทีแล้ว
ถึงเวลาเข้านอน ห้องมืดสนิทเพราะผ้าม่านสีทึบที่พึ่งเปลี่ยนเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ชาร์ล็อตพลิกตัวไปมาเล็กน้อยเพราะนอนไม่หลับ จิตใจฟุ้งซ่านถึงการสูญเสียและสิ่งที่ต้องจัดการในอนาคต และความบังเอิญ หลังมือของหญิงสาวแตะไปโดยแผ่นหลังเล็กของเด็กชายเข้า
เธอหันขวับไปมองทันใดเมื่อสัมผัสได้ถึงความสั่นไหวเบาๆ “ริดเดิ้ล”
“…”
“นาย…” เธอกำลังจะถามว่าโอเคไหม แต่ให้ตาย หลังการสูญเสียแบบนี้ใครบ้างจะทนไหว
ชาร์ล็อตสบถด่าตัวเองในใจก่อนดึงไหล่ทอมให้หันมา อีกฝ่ายไม่ได้ขืนแรงแต่อย่างใด พอได้เผชิญหน้ากันในความมืด หญิงสาวลังเลอยู่สักพักเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดี พลันนึกขึ้นได้ว่าแต่ก่อนพ่อของเธอเคยกอดปลอบ แขนบางก็รวบตัวเด็กชายเข้ามาในอ้อมกอด มือข้างหนึ่งลูบหลังเล็กขึ้นลงเบาๆ
แม้จะทำตัวเข้มแข็งเพียงใด ในใจลึกๆ ของเธอกำลังร่ำไห้ เศร้าโศก และเสียใจ ถึงชาร์ล็อตจะไร้มารดาแต่ผู้พ่อก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกขาดเหลือแต่อย่างใด เขาทำหน้าที่พ่อได้ดีมากสำหรับเธอ แต่ตอนนี้หล่อนกำลังรู้สึกราวกับแขนขาดไปข้างหนึ่ง — ไม่สิ แขนขาดยังรู้สึกดีกว่าเสียอีก
เมื่ออายุครบสิบแปด ภาระหน้าที่ย่อมมากขึ้น แล้วพระเจ้าช่างกลั่นแกล้ง รีบทวงคืนวิญญาณของพ่อเธอไปเสียเร็วนัก สาวกผู้ภักดีเช่นเขา เหตุใดถึงหวงแหนนักหนา เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ต่อให้เสียใจแค่ไหน แต่เธอก็ไม่อาจร้องไห้ได้ เพราะเธอกลายเป็นเสาหลักต้นใหม่ของบ้านไปแล้ว
[ Introducing the main character ]
- Charlotte Anderson -
- Simple female muggle -
- Tom Mavolo Ridlle -
- The perfect wizard -
** PG-13 :: นิยายฟิคนี้เหมาะสมกับผู้ที่อายุ 13 ปีขึ้น **
** Trigger Warnings & Content Warning **
พบเห็นแน่นอน :: Age gap(มีความต่างของอายุมาก — ในที่นี้ต่างกัน 6 ปี) ,Coercion(การใช้ความสัมพันธ์หรืออำนาจที่เหนือกว่าเพื่อบังคับหรือโน้มน้าวอีกฝ่ายต้องยอมทำตามในสิ่งที่ไม่อยากทำ) ,Submission(การยอมอยู่ใต้อำนาจ เป็นฝ่ายรอง เป็นผู้ถูกกระทำในแง่ของเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นรสนิยมและเต็มใจกันทั้งสองฝ่าย) ,Supernatural(โลกเหนือธรรมชาติ) ,Pseudo-Incest(ความสัมพันธ์เชิงชู้สาวระหว่างบุคคลในครอบครัวเดียวกันที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน) ,Obsessive Behavior(พฤติกรรมการหลงใหลในบางคนหรือบางอย่างอย่างมาก) ,Tsundere(ตัวละครปากไม่ตรงกับใจ)
อาจจะพบเห็น :: Profanity(คำหยาบคาย) ,Stalking(สะกดรอยตาม) ,Underage(มีความสัมพันธ์กันคนที่อายุต่ำกว่าเกณฑ์) ,Violent(การใช้ความรุนแรง) ,Blood(เลือด) ,Bullying(การบูลลี่) ,Cutting(ใช้ของมีคม) ,Gun(มีการใช้ปืน)
Genre : Canon Divergence ,Romance ,Fluff or Tooth-Rotting Fluff
*ในส่วนของ NC ยังไม่มีการวางแผนอย่างแน่ชัดว่าจะจัดทำขึ้นหรือไม่ หากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งเพิ่มเติม
แฟนฟิคนี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อสนองความต้องการเขียนของเจ้าของฟิค ไม่ได้ตั้งใจล้อเลียน ลบหลู่ หรือบิดเบือนต้นฉบับแต่อย่างใด — ขอบคุณต้นฉบับของคุณ JK ด้วยค่ะ
เนื้อหาอาจมีการรวบรัดตัดตอนไปบ้าง เพราะความอยากให้ถึงฉากที่ผู้เขียนต้องการบรรยาย หวังว่าทุกคนจะเข้าใจเนื้อหาที่จะสื่อและสนุกไปกับมัน
ยังไม่มีการแก้ไขคำผิดหรือรีไรท์ตลอดทั้งเรื่อง
เครดิต : ขอบคุณรูปภาพทุกรูปจาก Google and Pinterest
เปิดเรื่องอย่างเป็นทางการ : 8/1/2566
ปิดเรื่อง : ??/??/????
ฟิคนี้เป็นแฟนฟิคสั้น ๆแบบสั้น ๆจริงๆ เพราะกลัวว่าจะหมดไฟในการเขียนไปซะก่อน จึงมีความตั้งใจจะเขียนเพียงสิบกว่าตอนเท่านั้น(หรืออาจน้อยกว่า) คนเขียนอาจหายหน้าหายตาไป หรืออาจเก็บดองก็ต้องขอประทานอภัย ณ ที่นี้ด้วย
สำหรับคนที่อยากเห็นพี่ทอมคลั่งรักแบบ ‘คลั่ง’ ถึงขั้นหลงใหลก็เชิญชวนเข้ามาเต็มที่ เพราะงานนี้พี่ทอม(หรือควรเป็นน้องนะ เพราะอ่อนกว่ามาก) ต้องสู้ชีวิตอยู่พอตัว
ผลงานอื่นๆ ของ DuskyHew ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ DuskyHew
ความคิดเห็น